ข่าวผลิตภัณฑ์/บริการใหม่



เลือกลงทุนอย่างมืออาชีพ'ยิ่งออม ยิ่งงอกเงย' ME by TMBทางเลือกใหม่ดอกเบี้ยสูงกว่าระบบ 6เท่า




         สถานการณ์การออมของคนไทยได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง และในภาพรวมพบว่าพฤติกรรมการออมของคนไทยน้อยลง แต่เมื่อลงลึกไปในข้อมูลจะพบว่า แท้จริงแล้วคนไทยทั้งประเทศมีบัญชีออมทรัพย์รวมกว่า 72 ล้านบัญชี และมีเงินออมในระบบรวมแล้วกว่า 10 ล้านล้านบาท (ตัวเลขล่าสุดในวันที่ 28 เม.ย.2557, ธนาคารแห่งประเทศไทย) คิดเป็นเงินในบัญชีออมทรัพย์สูงถึง 4.9 ล้านล้านบาท ซึ่งหากพิจารณาแล้วพบว่า แท้จริงแล้ว คนไทยไม่ได้ออมน้อยลงเลย แต่ปัญหาคือเราออมอย่างถูกวิธีหรือไม่ การที่เราปล่อยเงินให้นอนนิ่งๆ อยู่ในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ นั่นไม่ต่างอะไรกับการปล่อยเงินนอนหลับอยู่ แล้วรอเวลาที่จะลดมูลค่าลง เปรียบได้กับคำว่า "ยิ่งออม ยิ่งไม่งอกเงย"
"ดังนั้น...จึงถึงเวลาแล้วที่จะต้อง "ปลุก" เงินของคุณให้ "ตื่น" เพื่อให้เงินได้งอกเงย โดยการเปลี่ยนมุมมองใหม่ ให้มองการออมเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่ง ซึ่งการออมเพื่อการลงทุนถือเป็นรูปแบบการลงทุนและการบริหาร
เงินที่ไม่มีความเสี่ยง โดยมีเคล็ดลับง่ายๆ คือ การเลือกออมในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ เช่น บัญชี ME ซึ่งให้ดอกเบี้ยสูงสุดถึง 3.25 เปอร์เซ็นต์ หรือสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปถึง 6 เท่า อีกทั้งเป็นบัญชีที่มีความคล่องตัวในการฝากหรือถอน สามารถเช็คดูจำนวนดอกเบี้ยที่งอกเงยทุกวันเพื่อเป็นกำลังใจในการออม ME by TMB จึงจัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ "WAKE UP YOUR MONEY WITH ME" ปลุกเงินให้ตื่น กระตุ้นคนไทยให้ปลุกเงินที่นอนหลับอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยต่ำ มาศึกษาทางเลือกการออมใหม่ๆ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงเช่น ME by TMB" น.ส.รัชดา เสริมศิลปกุล ผู้อำนวยการการตลาดและการขาย ME by TMB กล่าว
เพราะฉะนั้นถ้าอยากมั่นใจว่าในวัยเกษียณจะสามารถใช้ชีวิตสบายๆ ได้อย่างที่ฝัน ก็ต้องมีการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบเหมาะสมกับตัวเองตั้งแต่วันนี้ ด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด คือ การออมเงิน ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ เริ่มให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งเริ่มออมช้าก็ยิ่งต้องเพิ่มจำนวนเงินออมในแต่ละเดือนให้มากขึ้นเรื่อยๆ

ปลุกเงินออมด้วยดอกเบี้ยสูง
มาคิดกันง่าย.... แล้วถ้าเป็นเงินออมของคุณจะปลุกให้มันตื่นได้อย่างไร?ในกรณีที่ออมเป็นประจำทุกเดือน เดือนละ 5,000 บาท โดยวิธีการแบบเดิมๆ คือ ฝากออมทรัพย์ (อัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 0.5% ต่อปี) เวลาผ่านไป 1 ปี เท่ากับมีเงินออมอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นบาท จะได้รับดอกเบี้ยทั้งสิ้นเพียง 163 บาท
แต่หากเปลี่ยนมาเป็นการลงทุนที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากขึ้น หรือ ฝากเงินที่ให้ดอกเบี้ยสูงขึ้น เช่น ME by TMB ได้ดอกเบี้ย 3.25% ต่อปี เพราะฉะนั้นเมื่อผ่านไป 1 ปี เราจะมีเงินออม 6 หมื่นบาท บวกกับดอกเบี้ยอีกประมาณ 1,065 บาท
ดอกเบี้ย 1,065 บาท ดูเหมือนจะน้อยนิด แต่ถ้าเราเดินหน้าออมเงินเดือนละ 5,000 บาทไปจนครบ 5 ปี เงินฝากจะเพิ่มเป็น 3 แสนบาท และได้ดอกเบี้ยประมาณ 9,445 บาท ซึ่งต่างกันลิบลับกับการฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์ เพราะจะได้ดอกเบี้ยเพียง 1,374 บาท เท่านั้น
นอกจากนี้ หากเรายังคงรักษาวินัยในการออมเงินไว้ที่เดือนละ 5,000 บาท โดยได้ดอกเบี้ย 3.25% ไปอย่างต่อเนื่อง เงินออมของเรากลายเป็น ล้านบาท ภายใน 13 ปี แต่ถ้าได้ดอกเบี้ย 0.5% จะต้องฝากกันนาน 17 ปี กว่าจะมี 1 ล้านบาท ถ้าให้เงินล้านก้อนนี้เป็นส่วนหนึ่งของเงินสำหรับเกษียณ ซึ่งเป็นเงินสำหรับใช้ชีวิตในวันที่ไม่มีรายได้แล้ว ก่อนจะนำเงินก้อนนี้ไปทำอะไรจึงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ต้องคิดถึงความปลอดภัยของเงินต้น และผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ
หลายคนมองซ้ายมองขวาแล้ว ไม่รู้จะนำเงินก้อนนี้ไปลงทุนอะไรให้เงินงอกเงย จึงลงเอยที่ฝากเงินไว้กับธนาคาร เพราะคุ้นเคยที่สุด สบายใจที่สุด ในกรณีที่นำเงินล้านนี้ไปฝากไว้ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั้งหมด แล้วค่อยๆ ทยอยเบิกออกมาใช้เดือนละ 5,000 บาท เงินนี้จะหมดไปภายใน 17 ปี แต่ถ้าฝากไว้ที่ ME by TMB ได้ดอกเบี้ย 3.25% ต่อปี เงินจำนวนนี้จะยืดอายุออกไปได้อีก 6 ปี หรือใช้ไปได้นานถึง 23 ปี นี่ถือเป็นตัวอย่างที่คิดคำนวณเปรียบเทียบให้เห็นถึงความต่างของดอกเบี้ยที่เราจะได้รับ
         เตรียมพร้อม...ใช้ชีวิตแฮปปี้หลังเกษียณ ด้วย "การออม"อีกหนึ่งข้อมูลทำไม การออมจึงสำคัญ....เชื่อหรือไม่ว่า อีกไม่ช้าไม่นาน ประเทศไทยจะไม่ต่างจากประเทศญี่ปุ่น ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็จะมีแต่ "ผู้สูงวัย" นั่นเพราะประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ และในปี 2568 จะกลายเป็น "สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์" ตามการคาดการณ์ของกระทรวงสาธารณสุข
และอีกไม่ช้าไม่นานเช่นกัน เราก็จะเป็นหนึ่งในผู้สูงวัยเหล่านี้...ถ้าเราไม่เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า เมื่อถึงวันนั้นเราอาจจะไม่ได้เป็นคนแก่ที่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เนื่องจากมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะใช้ชีวิตแบบสุขสบายอย่างที่หวังไว้
ถ้าจะหวังพึ่งพารายได้จากลูกหลาน ก็คงต้องเตรียมใจเผื่อเอาไว้ด้วย โดยเฉพาะคนที่เลือกใช้ชีวิตโสด ยิ่งต้องเตรียมพร้อมเรื่องการเงินอย่างดี เพราะนอกจากไม่มีลูกหลาน ยังต้องสามารถดูแลตัวเองให้ได้ด้วย เพราะในอนาคตคนวัยทำงานหนึ่งคนจะต้องแบกรับภาระดูแลผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ลูกหลานของคนอื่นไม่มีกำลังเหลือพอมาดูแลผู้สูงอายุอย่างเรา
นั่นเพราะถ้าดูจาก อัตราส่วนเกื้อหนุนผู้สูงอายุ (Potential support ratio : PSR) จะเห็นว่า ผู้สูงอายุในปี 2543 มีคนวัยทำงานมาช่วยเหลือดูแลได้มากถึง 7 คน แต่ประเมินกันว่า ในปี 2573 ผู้สูงอายุไทยแต่ละคนจะมีคนวัยทำงานที่อาจจะช่วยในการดูแลค้ำจุนเพียง 2 คนเท่านั้น
ดังนั้นถ้าเรามีการวางแผนการออมและการลงทุน ไว้สำหรับใช้จ่ายในวัยเกษียณอย่างเหมาะสม ก็จะใช้ชีวิตในวัยแห่งการพักผ่อนได้อย่างสบายๆ ไม่ลำบาก
แต่จากการสำรวจการเตรียมความพร้อมสำหรับการวางแผนทางการเงินเพื่อวัยเกษียณของกลุ่มแรงงานในระบบ ช่วงอายุ 40-60 ปี โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คนไทย 86% จะกลายเป็น "คนแก่มีกรรม" เพราะมีเงินไม่พอใช้ในวัยหลังเกษียณ

สาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุมีเงินไม่พอใช้ มีอยู่ 2 ข้อใหญ่ๆ คือ 
             1. ออมเงินไว้น้อยเกินไป ถ้าต้องการจะใช้ชีวิตสบายๆ แบบคนแก่ที่พอมีพอกิน เราต้องเริ่มวางแผนเก็บออมไว้ตั้งแต่วัยหนุ่มสาว เพราะต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเก็บออมให้เพียงพอสำหรับชีวิตอีก 20-30 ปีหลังจากเกษียณ
ลองคิดง่ายๆ ว่า ถ้าหลังจากเกษียณอยากจะใช้เงินสักเดือนละ 1.5 หมื่นบาท ไปอีก 25 ปี หลังจากเกษียณ เราจะต้องมีเงินอย่างน้อยๆ 4.5 ล้านบาท ในวันเกษียณ
แต่น่าเสียดายที่คนไทยออมเงินไว้น้อยเกินไป เห็นได้จากระดับการออมของครัวเรือนไทย มีค่าเฉลี่ยการออมต่อรายได้อยู่ที่ 11.3% แต่ในปัจจุบันเหลือเพียง 9.2% เท่านั้นเพราะฉะนั้นถ้าอยากจะใช้ชีวิตสบายๆ ในวัยเกษียณจะต้องเริ่มออมตั้งแต่ตอนนี้ และต้องเริ่มให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งเริ่มออมช้าก็ยิ่งต้องเพิ่มจำนวนเงินออมในแต่ละเดือนให้มากขึ้น
การเงินออมทำได้ง่ายๆ คือ มีรายได้เท่าไรให้หักออกไปออมก่อนเสมอ และใช้เงินเท่าที่เหลือจากการออมเท่านั้น
และวิธีที่ช่วยให้การออมเงินเดินหน้าไปตามเป้าหมายได้ง่ายขึ้น  คือ การออมแบบเท่าๆ กันทุกเดือน โดยอาศัยการตัดบัญชีอัตโนมัติจาก บัญชีเงินเดือนไปเก็บไว้ในอีกบัญชีหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้เรารักษาวินัยในการออมได้ดีมากขึ้น
นอกจากนี้ บัญชีที่จะใช้เป็นบัญชีสำหรับการออมเงิน ก็ไม่ควรจะทำให้
เบิกเงินได้ง่ายเกินไป จึงไม่ควรเป็นบัญชีที่มีบัตรเอทีเอ็ม จะได้มีเวลาคิดทบทวนก่อนจะเบิกออกมาใช้
         2.ฝากเงิน ได้ดอกเบี้ยน้อยเกินไป หลายคนบอกว่า ออมเงินมาตั้งนาน แต่ดูเหมือนเงินไม่ได้งอกเงยขึ้นสักเท่าไร นั่นอาจจะเกิดจากการออมที่ได้ดอกเบี้ยน้อยเกินไป หรือเป็นการลงทุนที่ไม่กล้ารับความเสี่ยง ทำให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนน้อยตามไปด้วย
เพราะแม้เราจะบอกว่า คนไทยมีระดับการออมไม่มากนัก แต่ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยชี้ให้เห็นว่า คนไทยทั้งประเทศมีบัญชีเงินฝากกับธนาคารรวมกว่า 83 ล้านบัญชี และมีเงินออมในระบบรวมกว่า 10 ล้านล้านบาท

แต่เงินฝากเหล่านี้ได้ดอกเบี้ยน้อยเกินไป
ลองนำเงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ 3-12 เดือน รวมกันประมาณ
8.4 ล้านล้านบาท มาคำนวณดูว่า ในระยะเวลา 1 ปี เงินจำนวนนี้ที่ฝากอยู่ในธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยรวมกันเท่าไร... ผลที่ได้ คือ เงินฝากจำนวนนี้จะ ได้ดอกเบี้ยประมาณ 7.6 หมื่นล้านบาท
ทีนี้ลองคิดแทนคนทั้งประเทศว่า ถ้าเปลี่ยนจากฝากออมทรัพย์ทั่วๆ ไป หรือฝากประจำ แล้วย้ายไปหาการลงทุน หรือการออมที่ได้ดอกเบี้ยมากยิ่งขึ้น ปีละ 3.25% เงินฝากจำนวนเดียวกันนี้จะได้ดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 2.74 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.97 แสนล้านบาท ภายในเวลาเพียง 1 ปี
ทีนี้ก็พอจะเห็นแล้วว่า สาเหตุที่เงินเราไม่งอกเงยก็เพราะเราปล่อยเงินของเราให้นอนนิ่งๆ อยู่ในบัญชีมานานเกินไป
เพราะฉะนั้นคงต้องรีบปลุกตัวเองให้ลุกขึ้นมาออม พร้อมๆ กับปลุกเงินของเราให้ตื่นได้แล้ว..








ME จับมือ นิตยสาร ESQUIRE จัดงาน MONEY GROWS เปิดมุมมองใหม่ไขเคล็ดลับการออมให้งอกเงย






               นางสาวรัชดา เสริมศิลปกุล ผู้อำนวยการการตลาดและการขาย ME by TMB (ที่ 3 จากซ้าย) พร้อมด้วย นายภาณุ บุรุษรัตนพันธุ์ บรรณาธิการนิตยสาร Esquire (ที่ 5 จากซ้าย) จัดกิจกรรมเสวนาจิบกาแฟยามบ่ายในหัวข้อ “Money Grows ไขเคล็ดลับการวางแผนการเงินและทางเลือกใหม่สำหรับการออมให้งอกเงยกับ ME by TMB” โดยได้รับเกียรติจากบรรณาธิการนิตยสารและนักเขียนชื่อดัง วรรณศิริ ศรีวราธนบูลย์ (ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การออมเงิน ณ ร้านคอฟฟี่ คลับ เมื่อเร็วๆ นี้



เปิดประสบการณ์เหนือระดับกับ 

TMB WEALTH BANKING





          ทีเอ็มบี หรือธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรมมอบประสบการณ์เหนือระดับแก่ลูกค้า TMB Wealth Banking ด้วย “เอ็กซ์คลูซีฟช้อปปิ้ง” กับสีสันที่เป็นมงคล เสริมโชคชะตา พร้อมส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 50% ณ ช็อปลองฌอมป์ สยามพารากอน โดยภายในงานยังได้เชิญ หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา นักโหราศาสตร์ด้านฮวงจุ้ยชื่อดัง มาเผยเรื่องสีสันเสริมดวง สีสันที่เป็นมงคล
        นางสาวชมภูนุช ปฐมพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจสาขา ทีเอ็มบี เผยว่า  “TMB Wealth Banking   มุ่งมั่นที่จะนำเสนอบริการที่เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า นอกเหนือจากการนำเสนอการวางแผนทางการบริหารการเงินอย่างครบวงจร ยังจัดกิจกรรมมอบสิทธิพิเศษเพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า โดยจัดให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่ชอบความบันเทิง กีฬา ท่องเที่ยว ความสวยความงามและสุขภาพ ฯลฯ เพื่อแทนคำขอบคุณที่ลูกค้าต่างไว้วางใจในบริการของธนาคาร”
          ภายในงาน หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา ยังได้เผยถึงสีสันเสริมดวงสำหรับการช้อปปิ้งสุดพิเศษว่า “การเลือกใช้สีที่ถูกต้องก็เหมือนกับการหันจานดาวเทียมได้ถูกทิศถูกทาง ช่วยเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นได้ จริงแล้วคนเราทุกคนใช้ได้ทุกสี บางคนอาจจะกังวลว่าสีนี้ไม่ถูกโฉลก แต่จริงๆ แล้วในหลักของดวง การเลือกสิ่งของมาอยู่ใกล้ตัว ควรเลือกความหลากหลายของสีสัน อย่างน้อยเราก็ได้เปลี่ยนบรรยากาศ และสร้างพลังใหม่ให้กับตัวเอง จากตำราโหราศาสตร์จีน ปีมะเมียปีนี้มาพร้อมกับพลังของธาตุไม้ และสีสันที่เสริมธาตุไม้ได้เป็นอย่างดี คือ สีสันของธาตุไฟ อาทิ สีส้ม สีแดง ม่วง ช่วยเสริมความก้าวหน้าได้ สำหรับครึ่งปีหลังของ ปี 2557 ดาวพฤหัสมีพลังมากที่สุด พวกสีเหลือง ครีม น้ำตาล เป็นสีตำแหน่งมหาอุจจ์ ที่ป้องกันสิ่งไม่ดีและเป็นสีที่มีพลังที่สุด “
          นัทธชา สุนทรวิเนตร์ ลูกสาวสุดสวยคนเก่งของ วิทวัส สุนทรวิเนตร์ พิธีกรรายการตีสิบ หนึ่งในลูกค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษจาก TMB Wealth Banking กล่าวถึงสไตล์การช้อปปิ้งว่า “ปอยมีเทคนิคในการคิดก่อนซื้อว่า จะใช้ได้จริงไหม ใส่ในโอกาสไหน เราต้องคิดไว้ก่อน ไม่ใช่เอาแต่ของที่ชอบอย่างเดียว โดยได้มีโอกาสเดินทางไปหลายประเทศ แต่ละประเทศก็จะมีสิ่งของที่ไม่ควรพลาดแตกต่างกัน ส่วนสวรรค์แห่งช้อปปิ้งของปอย จะนึกถึงประเทศออสเตรเลีย เพราะจะมีของที่มีคุณภาพ และของที่พิเศษเป็นเอกลักษณ์ค่ะ”





ปิดบัญชี ME by TMB ที่ให้ดอกเบี้ยสูงได้แล้วทั่วประเทศ สะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องมาสาขา



             
           ME by TMB Self-Service Banking ที่ให้คุณได้มากกว่า   นำโดย   นางสาวรัชดา เสริมศิลปกุล ผู้อำนวยการการตลาดและการขาย ME by TMB (ที่ 2 จากซ้าย) เพิ่มความสะดวกในการสมัครเปิดบัญชี กับ ME by TMB เพื่อรับดอกเบี้ยสูงได้ง่ายขึ้น จบขั้นตอนการสมัครอย่างสมบูรณ์ผ่านช่องทาง www.mebytmb.com เพียงใช้ข้อมูลผู้ใช้งานและรหัสผ่านของ TMB Internet Banking (TMB Direct) โดยไม่ต้องเดินทางมาสาขาของ ME Place เพื่อยืนยันตน โดยบริการดังกล่าวจะเพิ่มความสะดวกสบายและประหยัดเวลาให้แก่ลูกค้าทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้นสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ME Call Center 0-2502-0000




มารู้จักกับ ME การทำธุรกรรมในรูปแบบใหม่



รู้จักกับ ME

           ME คือ Self Service Banking เพื่อให้คุณไ้ด้มากกว่า ด้วยการทำธุรกรรมทางการเงินด้วยตนเอง เพื่อรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นทุกวันนี้ พฤติกรรมคนไทยได้เปลี่ยนไป มีความยินดีที่จะทำอะไรด้วยตัวเอง เพื่อผลตอบแทนที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารเองเพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกใจและปริมาณที่มากกว่า หรือการเลือกซื้อของแต่งบ้าน หากต้องประกอบเอง ขนกลับบ้านเอง ก็ยินดีทำเพื่อให้ได้ของที่มีราคาถูกกว่าและรูปแบบที่สวยกว่า หรือแม้แต่การจองที่พัก ซื้อตั๋วเครื่องบินทางอินเทอร์ เน็ต เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกกว่า มีก็แต่เรื่องการธนาคาร ที่ถึงแม้คุณทำธุรกรรมด้วยตัวเองผ่านทางอินเทอร์เน็ต แต่ทำไมจึงได้ผลตอบแทนเท่ากับที่ไปใช้บริการที่สาขา

          ME เล็งเห็นความต้องการของคุณ จึงได้คิดค้นการธนาคารรูปแบบใหม่ ที่เมื่อคุณทำธุรกรรมทางการเงินด้วยตัวเอง ย่อมได้ผลตอบแทนที่มากกว่า โดยการ   เปิดตัวของ ME เราขอนำเสนอผลิตภัณฑ์อันดับแรก คือ "ME ฝากไม่ประจำ" ซึ่งให้ดอกเบี้ยสูงกว่า เพียงคุณกรอกใบสมัครเองเพื่อขอเปิดบัญชีทางอินเทอร์ เน็ตที่ไหน เวลาใดก็ได้ และไปที่สาขาเพียงเพื่อยืนยันตัวตน ก็เป็นการเปิดบัญชีที่สมบูรณ์ หลังจากนั้นคุณก็สามารถสั่งทำธุรกรรมทั่วๆ  ไปด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องไปที่สาขาเท่านั้น สะดวก ประหยัดเวลา ประหยัดน้ำมันในการเดินทาง แถมยังได้ดอกเบี้ยสูงกว่า

         ME ไม่มี สมุดบัญชี และ ATM 
เพราะด้วย concept ของ ME และรูปแบบผลิตภัณฑ์  ME ฝากไม่ประจำ เราให้ดอกเบี้ยสูง ดังนั้นลูกค้าน่าจะมีบัญชีนี้ไว้เพื่อออมเงิน ไม่ได้มีไว้สำหรับค่าใช้ จ่ายทั่วไป จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมี ATM ส่วนการดูยอดเงิน หรือรายการเดินบัญชี ลูกค้าก็สามารถดูได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งทุกรายการจะมีการ updateแบบ real time ซึ่งลูกค้าไม่จำเป็นต้องไปที่สาขาเพื่อ update ข้อมูลเหมือนการใช้สมุดบัญชีแบบเดิมๆ (เพิ่มเติ่ม)